ASIAN ผลงานปี66 โต10% อาหารสัตว์เลี้ยง-ทูน่าดัน

#ASIAN #ทันหุ้น – ASIAN ภาพรวมธุรกิจอาหารในปี 2566 ยังเติบโตได้ดี มองผลงานปี 2566 คาดเติบโตได้มากกว่า 10% ต่ำกว่าปี 2565 จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจทูน่า ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบในปี 2566 ผันผวนลดลง จับตาภาวะเงินเฟ้อในยุโรปอาจฉุดดีมานด์วัตถุดิบ

นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอาหารในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 10% ถือว่าต่ำกว่าปี 2565 ที่ ได้มีการปรับประมาณการรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเติบโต 22-23% จากเดิมคาดว่าเติบโต 19% จากปีที่ผ่านมา โดยประมาณการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจทูน่า ซึ่งยังคงเติบโตต่อตามเทรนด์ของตลาด และคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีประมาณ 18-19% ของรายได้จากการขายและบริการ

*ต้นทุนวัตถุดิบลดลง

ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบในปี 2566 จะผันผวนน้อยลงกว่าปี 2565 หรือผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ต้องรอจับตาดีมานด์บางส่วนที่อาจจะหายไปเนื่องจากมีภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) โดยตัวเลขเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร (Eurozone) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้น โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากราคาพลังงานและอาหารที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งของบริษัท มีแนวโน้มผลการดำเนินงานคาดว่าจะชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2565 เนื่องจากมีสต๊อกออกจากท่าเรือของสหรัฐฯ เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมาซึ่งต้องใช้เวลาในการระบายตั้งแต่ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 ไปจนถึงไตรมาส 1/2566 และความต้องการผลิตภัณฑ์กลุ่ม Value Added Product (VAP) ของตลาดสหรัฐชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งตลาดยุโรปที่ชะลอตัวลงเช่นกันจากต้นทุนพลังงาน, ภาวะเงินเฟ้อ และ ความต้องการของกลุ่ม HORECA (Hotel , Restaurant and Catering) ยังจำกัด โดยภาพรวมปี 2566 คาดว่ากลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแช่เยือกแข็งจะเติบโตได้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

*อาหารสัตว์เลี้ยงโต 15%

ส่วนแนวโน้มธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) ไตรมาสที่ 4/2565 คาดว่าเติบโตได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา โดยการขายในปีนี้ไม่มากนัก ซึ่งบริษัทมองว่าจากกลับมาเติบโตได้ดีในช่วงไตรมาสที่ 2/2566 คาดว่ากลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะเติบโตได้ประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตอาหารชนิดเปียกอยู่ที่ 42,000 ตัน อาหารเม็ด 20,000 ตัน และปลาป่น 6,000 ตัน ตอนนี้ใช้กำลังผลิตไปแล้ว 75% ของทั้งหมด ปัจจุบันตลาดหลักยังคงเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา และจีน

ส่วนธุรกิจทูน่านั้นในปี 2565 ชะลอตัวเล็กน้อย เเต่คาดว่าในไตรมาส 4/2565 ปริมาณการผลิตและจำหน่ายยังมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ตามการขยายตัวของตลาดโดยเฉพาะประเทศซาอุดีอาระเบีย และอิสราเอล แต่อาจย่อตัวลงจากเมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากการเข้าสู่โลว์ซีซันของธุรกิจ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้ 309 ล้านบาท ปัจจุบันมีอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ 17,500 ตันต่อปี