คลังเก็บหมวดหมู่: การเงิน

การเงิน

การเงิน

ค่าเงินบาทวันนี้ 24/2/66 เปิดที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย

ค่าเงินบาทวันนี้ 24/2/66 เปิดที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย

การเงิน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้อ่อนค่าลง 34.66 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.80 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.68 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.66 บาทต่อดอลลาร์ นวโน้มค่าเงินบาท มองว่า การอ่อนค่าลงของเงินบาทยังคงมาจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวและแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประเมินว่า ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าดังกล่าวจะยังคงมีอยู่ในระยะสั้นนี้ (อย่างน้อยจนกว่าตลาดจะเลิกหรือคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด) ทำให้ เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideways และอาจเข้าใกล้โซนแนวต้าน 34.70-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนราคาที่ ผู้เล่นในตลาดบางส่วน ที่เป็นฝั่ง Long USDTHB (เชื่อว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง) รอทยอยขายทำกำไรอยู่

อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ ตลาดทยอยรับรู้อัตราเงินเฟ้อ PCE ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ชะลอลงอย่างที่ตลาดคาดและกลับเร่งตัวขึ้น ประเมินว่า ตลาดอาจกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อ หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านถัดไป แถว 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก แต่มองว่า แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจจะไม่มาก หลังตลาดเริ่มทำใจกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงช้า ตั้งแต่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ก่อนหน้ามาสักพักแล้ว ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อ PCE ชะลอลงมากกว่าคาด ก็อาจช่วยหนุนให้ ตลาดคลายกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้บ้าง ซึ่งในภาพดังกล่าวอาจเห็นเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นทดสอบแนวรับ 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้

อนึ่งในระยะสั้น มองว่า ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มองข้ามไม่ได้และอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินในช่วงนี้ได้

ทั้งนี้ ความผันผวนของตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้มองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.80 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยในช่วงแรก ตลาดยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานยังคงออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ จากแรงหนุนการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม Semiconductor หลัง Nvidia (ราคาหุ้น +14%) รายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด พร้อมทั้งปรับคาดการณ์ผลประกอบการในอนาคตดีขึ้นมาก ส่งผลให้ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +0.72% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.53%

ส่วนทางด้านตลาดบอนด์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ 3.89% เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ที่จะรับรู้ในวันนี้ ก่อนที่จะมีการปรับสถานะการถือครองบอนด์ที่ชัดเจน ตามมุมมองต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดต่อไป นอกจากนี้ มองว่า การย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นั้นส่วนหนึ่งมาจากการทยอยเข้าซื้อบอนด์ (Buy on Dip) ของผู้เล่นในตลาด ซึ่งยังคงมีมุมมองว่า ต่อให้เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ 2-3 ครั้ง เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเสี่ยงชะลอตัวลงหนักในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งบอนด์ยีลด์ระยะยาวก็อาจปรับตัวลดลง จากระดับปัจจุบันได้

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หนุนโดยแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงออกมาสดใสและดีกว่าคาด โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 104.6 จุด ส่วนในฝั่งราคาทองคำ การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ จากแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด และภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ย่อตัวลงต่อเนื่องใกล้ระดับ 1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ คาดว่า การย่อตัวลงของราคาทองคำจะยังคงหนุนให้ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้าซื้อในจังหวะย่อตัว ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลด้านเงินเฟ้อที่เฟดให้คงามสำคัญ โดยตลาดจะรอลุ้นว่า อัตราเงินเฟ้อ PCE โดยเฉพาะในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในภาคการบริการที่ไม่รวมที่พักอาศัย (Core PCE Services ex. housing) จะส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อ หรือ กลับมาเร่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจปรับดอกเบี้ยของเฟดได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดว่าจะขึ้นไปถึงระดับใด

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดดังกล่าว มองว่า ในระยะสั้น ควรจับตาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจกลับมาร้อนแรงได้ (รัสเซียอาจเปิดฉากบุกโจมตียูเครนครั้งใหญ่อีกรอบ)

อัพเดทข่าวการเงิน มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม : LINE BK ชู “สินเชื่อนาโน” เจาะตลาดขยายฐานลูกค้าทั่วไทยช่วยคนรายได้น้อย

การเงิน

LINE BK ชู “สินเชื่อนาโน” เจาะตลาดขยายฐานลูกค้าทั่วไทยช่วยคนรายได้น้อย

LINE BK ชู “สินเชื่อนาโน” เจาะตลาดขยายฐานลูกค้าทั่วไทยช่วยคนรายได้น้อย

การเงิน

LINE BK เตรียมขยายฐานลูกค้าทั่วไทย ชูสินเชื่อนาโนเจาะตลาด ช่วยคนรายได้น้อย พร้อมลุยธุรกิจโบรกเกอร์ประกันเต็มรูปแบบ

นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา LINE BK ได้ทำแคมเปญกระตุ้นการตลาดกระตุ้นการสมัครใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่า 5.3 ล้านราย และบริการต่างๆ ของ LINE BK ได้รับกระแสตอบรับในทิศทางที่ดี

ทั้งนี้ เห็นได้จากข้อมูลการเปิดใช้งานที่เพิ่มขึ้น อาทิ บริการวงเงินให้ยืมกว่า 6 แสนบัญชี และมียอดรวมการปล่อยสินเชื่อตั้งแต่เปิดบริการจนถึงสิ้นปี 2565 ไปกว่า 50,000 ล้านบาท ส่วนบริการธุรกรรมทางการเงิน ได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ช่วยให้โลกการเงินและโลกโซเชียลใกล้กันมากยิ่งขึ้น

ส่วนบริการสินเชื่อมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการสินเชื่อภายในประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้มีการจับมือกับพาร์ตเนอร์รายใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเข้าถึงสินเชื่อให้กับลูกค้า เช่น ออโรร่า และ ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเริ่มโครงการไปเมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 พบว่ามีลูกค้าที่ให้ความสนใจมากถึง 50% ของลูกค้าที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ

นอกจากนี้ เรายังได้จับมือกับบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ MTL ผ่าน LINE Official Account ของ LINE BK โดยเน้นสื่อสารเรื่องประกันให้เข้าใจง่าย และเข้าถึงกลุ่มคนรายได้น้อยเพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพได้มากขึ้น

นายธนา กล่าวอีกว่า ในปี 2565 LINE BK ได้เติมเต็มบริการทุกด้านเพื่อสะท้อนภาพความเป็น Social Banking ให้ชัดเจนขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีพัฒนาให้เกิดบริการใหม่ๆ ที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การทำให้ลูกค้า K PLUS สามารถสมัครบริการ LINE BK ได้ง่ายขึ้น บริการโอนเงินผ่าน QR และการโอนเงินด้วยการพิมพ์จำนวนเงินเข้าไปในแชตได้เลย รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามามีส่วนช่วยทำความเข้าใจและประเมินความเสี่ยงให้กับลูกค้าสินเชื่อ ซึ่งช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อของ LINE BK มีความแม่นยำมากขึ้น

อัพเดทข่าวการเงิน มาใหม่ แนะนำข่าวเพิ่มเติม :  SET แกว่งตัว 1,660 – 1,680 จุด ระวังแรงขายลดเสี่ยง สหรัฐเผยดัชนี PCE คืนนี้

ข่าวการเงิน ไทยรัฐ

SET แกว่งตัว 1,660 – 1,680 จุด ระวังแรงขายลดเสี่ยง สหรัฐเผยดัชนี PCE คืนนี้

บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,660 – 1,680 จุด คาดการณ์ผลประกอบหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า-ไฟแนนซ์ อ่อนแอ และระวังแรงขายลดเสี่ยงก่อนสหรัฐรายงานดัชนี PCE คืนนี้ หุ้นเด่นวันนี้ KTB , BAFS

วันที่ 27 มกราคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,660 – 1,680 จุด แม้จะได้บรรยากาศ (sentiment) บวกจาก GDP ไตรมาส 4/65 สหรัฐที่สูงเกินคาดโดย +2.9% ซึ่งช่วยให้คลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตามคาดการณ์ผลประกอบที่อ่อนแอของหุ้นกลุ่ม Real sector เช่น โรงไฟฟ้า ไฟแนน์ ประกอบกับแรงขายลดความเสี่ยงเพื่อติดตาม PCE สหรัฐในวันนี้จะเป็นตัวกดดันให้มีความผันผวนลงทุนแบบเก็งกำไรเป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย) กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy

สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้

ตลาดคลายกังวลเศรษฐกิจหดตัวแรง (Hard landing) หลัง GDP สหรัฐยังสดใส: สหรัฐมี GDP ไตรมาส 4/65 ขยายตัว 2.9% แม้จะลดลงจากโต 3.2% ในไตรมาส3/65 แต่โตมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 2.8% ขณะเดียวกันยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.6% mom ดีขึ้นจาก -1.7%mom ในเดือน พ.ย. และ ดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 2.5%mom

ข่าวการเงิน ไทยรัฐ

คืนนี้ติดตามดัชนี PCE Price Index ยืนยันเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE Price Index ที่ 5.1% ลดลงจาก 5.5% ในเดือน พ.ย. และคาด Core PCE Price Index เดือน ธ.ค.จะอยู่ทีระดับ 4.4% ลดลงจาก 4.7% ในเดือน พ.ย. (ลดลงมากกว่าคาดจะดี)

ทั้งนี้ตลาดยังมั่นใจเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า : FED จะมีการประชุมในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ. 2566 โดย CME Group ประเมินนักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 99.1% คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จาก 4.25% เป็น 4.5% และมีเพียง 0.01% เท่านั้นที่มองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เป็น 4.75%

ทั้งนี้ บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่นวันนี้

– KTB (ปิด 17.90 ซื้อ/เป้า 24 บาท) ไม่มี Overhang จากงบการเงินได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยของไทยยังเป็นขาขึ้น และจ่ายปันผลปีละครั้งให้ Dividend yield สูง คาดปันผลปี22 ที่ 0.85 บาท ให้ Dividend yield ที่ 4.7%

– BAFS (ปิด 33 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 37 บาท) เป็นหุ้นผูกขาด (monopoly) การเติมน้ำมันเครื่องบินแต่เพียงผู้เดียว และปีนี้จะเป็นหุ้น Turnaround งบจะพลิกมีกำไรตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นหลังไทยและจีนเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สซื้อขายต่ำลงหลังจากดัชนีหลักขาดทุนเพิ่มเติม

Investing.com – หุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ ซื้อขายต่ำกว่าในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี หลังจากดัชนีหลักร่วงลงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส

เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงท่าทีของเฟดที่ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลดลง ขณะที่นักลงทุนให้ความสนใจต่อรายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ในเดือนตุลาคมที่จะเผยแพร่ในภายหลังในเซสชั่นของวันศุกร์

เมื่อเวลา 19:20 น. ET (23:20 น. GMT) ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และ S&P 500 ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% ต่อดัชนี ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.1%

ในสัญญาซื้อขายเพิ่มเติมหุ้น Atlassian (NASDAQ:TEAM) ลดลง 23.4% หลังจาก รายงาน กำไรต่อหุ้นประจำไตรมาสที่ 1 ที่ 0.36 ดอลลาร์เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 0.40 ดอลลาร์ในขณะที่รายรับอยู่ที่ 807 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 806.35 ล้านดอลลาร์

หุ้น Cloudflare (NYSE:NET) ร่วงลง 14.4% หลังจากที่บริษัท รายงาน กำไรต่อหุ้นประจำไตรมาสที่ 3 ที่ 0.06 ดอลลาร์ เหนือความคาดหมายที่ 0.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่รายรับอยู่ที่ 253.9 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 250.63 ล้านดอลลาร์

หุ้น Block Inc (NYSE:SQ) เพิ่มขึ้น 13.4% หลังจาก รายงาน กำไรต่อหุ้นไตรมาส 3 ที่ 0.42 ดอลลาร์สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.24 ดอลลาร์ในขณะที่ รายรับอยู่ที่ 4.52 พันล้านดอลลาร์เทียบกับที่คาดไว้ 4.52 พันล้านดอลลาร์

หุ้น DoorDash Inc (NYSE:DASH) เพิ่มขึ้น 10.8% หลังจาก รายงาน การขาดทุนในไตรมาสที่ 3 ที่ 0.77 ดอลลาร์ต่อหุ้น แย่กว่าที่คาดไว้ที่ 0.55 ดอลลาร์ และรายรับอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์เทียบกับที่คาดไว้ 1.62 พันล้านดอลลาร์

หุ้น PayPal (NASDAQ:PYPL) ลดลง 9.2% หลังจาก รายงาน กำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 1.08 ดอลลาร์ เหนือความคาดหมายที่ 0.96 ดอลลาร์ ขณะที่รายรับรายงานอยู่ที่ 6.85 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดไว้ 6.82 พันล้านดอลลาร์

หุ้น Starbucks (NASDAQ:SBUX) เพิ่มขึ้น 2% หลังจาก รายงาน กำไรต่อหุ้นไตรมาส 4 ที่ 0.81 ดอลลาร์เทียบกับ 0.73 ดอลลาร์ที่คาดว่าจะได้รับจากรายรับ 8.4 พันล้านดอลลาร์เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 8.33 พันล้านดอลลาร์

ในเซสชั่นของวันศุกร์นี้ รายงานข้อมูลของ การจ้างงานนนอกภาคการเกษตร ฉบับใหม่ จะได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดท่ามกลางความคาดหวังของการจ้างงาน 205,000 ตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วและอัตราการว่างงาน 3.5% ในขณะเดียวกันผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงเครือข่าย AMC จะถูกจับตามองเช่นกัน

ในช่วงการซื้อขายปกติของวันพฤหัสบดี ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 146.5 จุดหรือ 0.5% เป็น 32,001.3 S&P 500 ลดลง 39.8 จุดหรือ 1.1% เป็น 3,719.9 จาก NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 181.9 จุดหรือ 1.7% เป็น 10,342.9

ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธฐัตร สหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.149%