คลังเก็บรายเดือน: ตุลาคม 2022

เกมส์

Bandai Namco เผยรายละเอียดใหม่ One Piece Odyssey และ โดราเอมอนปลูกผักภาค 2

Bandai Namco เผยรายละเอียดใหม่ One Piece Odyssey และ โดราเอมอนปลูกผักภาค 2

เกมส์

Bandai Namco เปิดคลิปรายละเอียดใหม่ของ One Piece Odyssey และ DORAEMON STORY OF SEASONS: Friends of the Great Kingdom ภายในงาน Thailand Game Show 2022

คุณนาคาจิมะ โคจิ โปรดิวเซอร์เกม DORAEMON STORY OF SEASONS: Friends of the Great Kingdom เปิดเผยคลิปตัวใหม่ของตัวเกม ฯ โดยเป็นคลิปเกมเพลย์แสดงวิธีที่ผู้เล่นสามารถสร้างสัมพันธ์กับคนในเมือง รวมถึงเทศกาลต่าง ๆ ลอดจนเคล็ดลับและกลยุทธ์ในการกระชับมิตรกับพวกเขา ทั้งยังได้แนะนำคุณสมบัติใหม่ของเกมอีกอย่างหนึ่งบนเวทีหลักในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งการเลี้ยงดูสัตว์ของผู้เล่นจะส่งผลต่อรูปร่างหน้าตาของสัตว์ที่เลี้ยง ลวดลายและสีสันของสัตว์จะเปลี่ยนแปลงไปตามการเลี้ยงดูที่ดีของผู้เล่น คุณสมบัตินี้จะช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกดื่มด่ำกับเกมที่มีความเฉพาะตัวยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการประกาศรายละเอียดของ DLC ชุดแรกบนเวทีหลักเป็นครั้งแรกอีกด้วย DLC “ชีวิตในฤดูหนาว” จะเปิดให้เล่นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022 — ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันจำหน่ายเกมตัวเต็ม DLC ชุดนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าของโนบิตะและผองเพื่อนพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตในฤดูหนาว DLC ชุดนี้ยังมีเนื้อเรื่องย่อยให้เล่นเพิ่มเติมซึ่งจะมีของวิเศษ ให้เล่นอีกด้วย

ด้านซึสึกิ คัตสึอากิ โปรดิวเซอร์เกม  One Piece Odyssey ได้เปิดเผยคลิปเกมเพลย์ในช่วงของอาณาจักรอลาบาสตา โดยเผยถึงระบบใหม่ภายในเกม ที่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนตัวละครเพื่อใช้ความสามารถต่าง ๆ ในการเก็บไอเทม รวมถึงระบบภารกิจต่าง ๆ อาทิการล่าค่าหัว และเควสรองอีกจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังได้มีคลิปข้อความพิเศษจากคุณมาริกะ โคโนะ ผู้พากย์เสียงริม และคุณคัปเป ยามากุจิ ผู้พากย์เสียงอุซป อีกด้วย

DORAEMON STORY OF SEASONS: Friends of the Great Kingdom มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022 บนแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Nintendo Switch และ PC (Steam) ส่วน One Piece Odyssey มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 13 มกราคม 2023 บนแพลตฟอร์ม PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox Series และ PC (Steam) พร้อมภาษาไทย

เด็ก

5 สรรพคุณจากนมแม่ สุดยอดตัวยาธรรมชาติรักษาอาการต่างๆ ได้ดี

5 สรรพคุณจากนมแม่ สุดยอดตัวยาธรรมชาติรักษาอาการต่างๆ ได้ดี

เด็ก

ถ้าพูดถึงนมแม่ ก็คงจะมีแต่สรรพคุณมากมายที่ร่างกายได้รับ โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของลูกได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการสร้างภูมิต้านทานในร่างกายของลูกได้ดีอีกด้วย และด้วยคำยืนยันจากองค์การอนามัยโลกได้มีผลพิสูจน์จากคุณแม่ทั่วโลก ซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้วว่า นมแม่ถือเป็นอาหารจากธรรมชาติที่ให้คุณประโยชน์สูงสุดแก่ทารกน้อย อีกทั้งยังมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาอาการต่างๆ ได้ดีดังนี้

1.ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในหู
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์เมดิคัลเซ็นเตอร์ ได้มีการเปิดเผยว่า การใช้นมแม่เพื่อรักษาอาการติดเชื้อในหูของทารกน้อยและผู้ใหญ่ ซึ่งใช้วิธีการรักษาด้วยการหยดนมแม่ประมาณ 3-4 หยดที่บริเวณช่องหูด้านนอก โดยไม่หยดเข้าไปในรูหูโดยตรง ช่วยรักษาอาการอักเสบติดเชื้อในช่องหูได้ดี เพราะนมแม่มีแอนตี้บอดี้ตามธรรมชาตินั่นเอง

2.ช่วยรักษาอาการเยื่อตาอักเสบ
นมแม่สามารถใช้เป็นยารักษาอาการเยื่อตาอักเสบหรืออาการตาแดงในเด็กได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งใช้วิธีการรักษาด้วยการหยดนมแม่ประมาณ 2 หยดที่ดวงตาข้างที่มีอาการอักเสบ แต่ทั้งนี้หากไม่มั่นใจในผลลัพธ์ก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรักษาด้วยวิธีนี้

3.ช่วยรักษาอาการผิวไหม้แสบคัน
สำหรับอาการผิวไหม้ที่ทำให้มีอาการแสบคันจากการโดนแสงแดดหรือแพ้สารเคมี สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการใช้นมแม่ลูบทาให้ทั่วแล้วปล่อยให้แห้ง ซึ่งสารแอนตี้บอดี้ที่อยู่ในนมแม่จะมีส่วนช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคบนแผลได้เป็นอย่างดี

4.ช่วยรักษาอาการเจ็บคอ

อาการเจ็บคอที่เกิดขึ้นในเด็ก สามารถรักษาอาการดังกล่าวนี้ได้ด้วยการให้ดื่มนมแม่ ซึ่งนมแม่จะมีสรรพคุณช่วยแก้อาการเจ็บคอ หรือคออักเสบได้เช่นกัน

5.ช่วยรักษาสิว
หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่านมแม่จะช่วยรักษาสิวได้ แต่นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานดิเอโก้ ได้มีการรายงานผลการทดลองว่า หลังจากล้างหน้าสะอาด แล้วใช้นมแม่แต้มที่บริเวณที่เป็นสิวอักเสบ ปล่อยไว้ให้แห้ง จะช่วยให้อาการอักเสบของสิวลดลงได้ และการใช้นมแม่ทาให้ทั่วหน้าแล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด แทนการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ก็มีส่วนช่วยยับยั้งการเกิดสิวได้ดี

เป็นอย่างไรกันบ้างคะหลังจากที่ได้รู้ถึงสรรพคุณที่ได้จากนมแม่ ในการใช้เป็นยาธรรมชาติเพื่อรักษาอาการต่างๆ จะเห็นได้ว่านมแม่ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของทารกเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาหรือบรรเทาอาการต่างๆ ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

การศึกษา

ครูจุ๊ย กุลธิดา: เปลือยการศึกษาไทยช่วงวิกฤติโควิด-19

ครูจุ๊ย กุลธิดา: เปลือยการศึกษาไทยช่วงวิกฤติโควิด-19

การศึกษา

Highlight

  • ระบบราชการ ระบบคิดของคนต่อการศึกษา และระบบอำนาจนิยม ยังเป็นปัญหาสำคัญของระบบการศึกษาไทย
  • การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาเพิ่มปัญหาให้กับระบบการศึกษา ขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วปรากฏชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ
  • การช่วยเหลือของภาครัฐในช่วงโควิด-19 ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากภาครัฐใช้การจัดการปัญหารูปแบบเดิม ๆ กับสถานการณ์โรคระบาดอุบัติใหม่
  • ปัจจัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยเพื่อช่วยเหลือนักเรียน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 คือทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับกระบวนการจัดการศึกษา

“ระบบการศึกษาไทย” อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดคุยถกเถียงกันในสังคมบ่อยครั้ง ทั้งปัญหาเรื่องหลักสูตรการสอน เรื่องทรัพยากรบุคคลและเม็ดเงิน รวมไปถึงเรื่องอำนาจนิยม จนคล้ายกับว่าปัญหาของระบบการศึกษาของไทยได้กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ยากจะหาทางแก้ไขหรือพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ทว่า ในห้วงเวลาที่หลายภาคส่วนพยายามหาทางออกให้กับปัญหาที่เป็นอยู่ การระบาดของโรคโควิด-19 ก็ซ้ำเติมระบบการศึกษาไทยให้บอบช้ำมากขึ้น เรียกว่าปัญหาเก่า ๆ ยังไม่ทันได้แก้ไข ก็มีปัญหาใหม่ ๆ เข้ามาให้ต้องหาทางแก้ไขไม่หยุดหย่อน

เมื่อการศึกษายังคงเป็นสิ่งจำเป็น และปัญหาทั้งหมดต้องถูกสะสาง แม้ในสถานการณ์โรคระบาด Sanook ชวน “ครูจุ๊ย – กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ” คณะกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า มาเปิดเปลือยปัญหาการศึกษาไทยในช่วงวิกฤติโควิด-19 และหาทางออกไปพร้อมกัน

ปัญหาเรื้อรังการศึกษาไทย

“สิ่งที่เป็นปัญหามาตลอดและไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ก็คือปัญหาเรื่องวิธีคิดระบบราชการ ที่มันครอบระบบการศึกษาทั้งหมดเอาไว้ ซึ่งมันก็จะสร้างให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการจัดการทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นคนหรือเงิน วิธีคิดแบบราชการคือระบบที่แข็งตัวมาก ๆ แล้วก็ไม่ปล่อยให้คนทำงานได้ใช้ความคิดของตัวเองในการบริหารจัดการอะไรเลย ทุกอย่างต้องมารอที่ส่วนกลางทั้งหมด มันก็เลยทำให้งานการศึกษาที่ควรจะเป็นงานที่สร้างสรรค์ที่สุด ไม่สามารถทำงานอย่างสร้างสรรค์ได้ แล้วก็ไม่ได้รับทรัพยากรที่เพียงพอ” กุลธิดาเริ่มต้นสะท้อนปัญหา

ไม่เพียงแต่วิธีคิดแบบระบบราชการเท่านั้นที่สร้างปัญหาให้กับระบบการศึกษาไทย แต่วิธีคิดของคนในสังคมต่อระบบการศึกษาก็เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการศึกษา กุลธิดาชี้ว่า คนในสังคมต้องตอบคำถามให้ได้ว่าการศึกษาไทยเป็นไปเพื่ออะไรกันแน่ ระหว่างการเรียนรู้เพื่อรู้จักตัวเอง และพัฒนาตัวเอง หรือเป็นเพียง “ใบเบิกทาง” เพื่ออาชีพ และการไต่เต้าทางสังคม

“อันสุดท้ายคือระบบอำนาจนิยมที่ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมไทย มันเป็นปัญหาต่อกระบวนการเรียนรู้ เพราะหลาย ๆ ครั้งมันทำให้พื้นที่ปลอดภัยไม่เกิดขึ้น ก็คือการที่นักเรียนคนหนึ่งอยู่ในห้องเรียน แล้วเขาไม่รู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ของเขา ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เขาจะทำผิดได้ ล้มลุกคลุกคลานได้ ก็เลยทำให้เกิดปัญหากระบวนการเรียนรู้” กุลธิดาอธิบาย

เมื่อถามถึงปัจจัยที่ทำให้ระบบการศึกษาไทยไม่สามารถพัฒนาได้ กุลธิดาสะท้อนว่า สภาพเศรษฐกิจและสภาพสังคมที่ผู้คนต้องดิ้นรน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ผู้ปกครอง” ที่ควรจะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษา ไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้

ครูจุ๊ย – กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ

ระบบการศึกษามี 3 ฝ่ายที่ต้องทำงานร่วมกัน ก็คือบ้าน โรงเรียน และนักเรียน ของเราคือฝ่ายผู้ปกครองยังไม่ค่อยมีส่วนร่วม ซึ่งการที่ครอบครัวไม่สามารถมามีส่วนร่วมกับการศึกษาของลูกได้ มันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การศึกษาเดินหน้าต่อไปได้ยากลำบาก” กุลธิดากล่าว

วิกฤติโควิด-19 ซ้ำเติมระบบการศึกษา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง “ความเหลื่อมล้ำ” ที่สะท้อนชัดเจนผ่านข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ระบุว่า เด็กนักเรียนไทยมากกว่า 270,000 คน เข้าไม่ถึงไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ เมื่อรัฐบาลประกาศให้เรียนออนไลน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค

“เด็กได้รับผลกระทบเยอะมาก เอาพื้นฐานก่อน จากการขาดแคลนทรัพยากร การเข้าไม่ถึงทรัพยากร แล้วก็ความพยายามของภาครัฐในการใช้เทคโนโลยีเพื่อมาแก้ปัญหา แต่วิธีแก้ของเขาเป็นวิธีแก้ แบบคำสั่งที่ Top-down ลงมา แบบระบบคิดของราชการ แต่ไม่ได้สนับสนุนอย่างเพียงพอ ดังนั้น ลักษณะการทำงานของรัฐราชการ ทำให้การจัดการทรัพยากรเป็นไปด้วยความไร้ประสิทธิภาพมาก เมื่อเป็นแบบนั้น มันทำให้เด็กไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเขาได้” กุลธิดาวิพากษ์

นอกจากนักเรียนจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนักแล้ว ครูผู้สอนก็เป็นคนอีกกลุ่มในระบบการศึกษาที่ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนอุปกรณ์การสอนออนไลน์จากภาครัฐ และเรื่องกระบวนการวิธีสอน

ครูจุ๊ย – กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ

“เราจะไปโทษคุณครูอย่างเดียวไม่ได้ หลายครั้งเราเห็นว่านั่งหน้าจอ 7 ชั่วโมง เอาห้องเรียนปกติมาวางไว้บนหน้าจอเลย ก็ใช่ เพราะเขาไม่รู้จักวิธีอื่น เพราะมันไม่ได้มีการส่งเสริมวิธีอื่น เราเห็นการทำงานแบบนี้ สั่งว่าฉันจะเอาแบบนี้ เธอก็ไปดู DLTV สิ” กุลธิดาเล่า

“แล้วเราลองนึกถึงบริบทสุดท้าย คนที่สามที่อยู่ในความสัมพันธ์การศึกษา ก็คือที่บ้าน บ้านก็ไม่ได้รับการสนับสนุนอีกเช่นกัน กว่าเราจะได้รับเงินสนับสนุนไม่กี่พันบาท เรารอนานมาก แล้วกระบวนการได้รับเงินก็มีปัญหา เป็นปัญหาคลาสสิกที่จะต้องโอนเงิน รับเงิน เดินทางไปรับ วุ่นวายมาก ๆ ในการรับเงินไม่กี่พันบาท” กุลธิดาอธิบาย

การช่วยเหลือที่เชื่องช้าและไม่มีประสิทธิภาพ

“การช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19 แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพเลย เพราะหนึ่ง ไม่มีการคิดเรื่องแผนที่ต้องจัดการกับปัญหาเร่งด่วน เราเห็นว่าหลายครั้ง การตัดสินใจของรัฐเป็นไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน มันไม่ทันกับปัญหาที่เกิดขึ้น” กุลธิดาสะท้อน

นอกจากนี้ กุลธิดายังยกตัวอย่างการจัดการสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐไทย ที่กำหนดตัวชี้วัด 44 ข้อ ให้โรงเรียนทั่วประเทศทำตาม แต่กลับไม่มีการสนับสนุนเงินหรือทรัพยากรใด ๆ ส่งผลให้แต่ละโรงเรียนต้องดิ้นรนหาทางออกด้วยตัวเอง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ภาครัฐเป็นผู้กำหนดขึ้น แต่ไม่เคยลงมาสัมผัสปัญหาหน้างานด้วยตัวเอง

ครูจุ๊ย – กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ

โควิด-19 ทำให้เราเห็นเลยว่า การจัดการของภาครัฐในรูปแบบเดิม ๆ มันใช้ไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ มันเลยทำให้ความเหลื่อมล้ำชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เรากำลังพูดถึงเด็กที่จะเจอภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ซึ่งมาถึงตรงนี้ เรายังไม่เห็นเลยว่ารัฐจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร แล้วยังมีเรื่องทักษะทางอารมณ์ ทักษะทางสังคม ทักษะขั้นพื้นฐานต่าง ๆ” กุลธิดาสะท้อน

“กลายเป็นว่าโควิด-19 มาทำให้เห็นถึงปัญหาทั้งปัญหาคลาสสิกเดิม สะท้อนชัดขึ้น เหลื่อมล้ำหนักขึ้น รวมไปถึงปัญหาเรื่องสุขภาพจิตซึ่งมันมีอยู่แล้ว ปัญหาพัฒนาการที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่พอมีโควิด-19 ปัญหาเหล่านี้เหมือนถูกเร่งปฏิกิริยา ทำให้เรามองเห็นมันชัดขึ้น แล้วรุนแรงขึ้นด้วย” กุลธิดากล่าวเพิ่มเติม

ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันแก้ปัญหา

กุลธิดาระบุว่า หากต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยเพื่อช่วยเหลือนักเรียน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโควิด-19 สิ่งเล็กน้อยที่สุดที่รัฐบาลจะสามารถทำได้ คือการ “ลดภาระงานของครู”

ครูจุ๊ย – กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ

“มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะยาก แต่มันดันยากในประเทศนี้ คือเรื่องการจัดการพื้นฐานต่าง ๆ ของภาครัฐ ที่จะมาช่วยลดขั้นตอน ลดการทำงานที่ไม่จำเป็นของคุณครู ตัวเลขก่อนหน้านี้คือ 84 วัน จาก 200 วัน ที่ครูใช้ไปกับอย่างอื่น ที่เหลือค่อยสอน เราเลยไม่รู้ว่าจะหาคุณภาพการเรียนมาจากไหน อย่างพวกรายงานต่าง ๆ ที่ครูต้องทำ คืนเวลาให้เขา เพราะขั้นตอนนี้ มันคือขั้นตอนที่เรียกว่าช่วงฟื้นฟู คือช่วงก่อนหน้านี้ อะไรที่มันหายไป อะไรที่มันถอยไป มันต้องมาเร่งฟื้นฟู ซึ่งการเร่งฟื้นฟู คุณครูต้องการเวลา เด็กเองก็ต้องการเวลาเหมือนกัน มันไม่ควรเอาอย่างอื่นมาเบียดบังเวลาของครู แล้วก็ควรให้ทรัพยากรคุณครูเพิ่มด้วย ในการที่จะไปช่วยดูแลนักเรียน แล้วก็ช่วยฟื้นฟูทักษะความรู้ที่หายไป” กุลธิดาเสนอ

สำหรับตัวผู้เรียนนั้น สิ่งสำคัญคือการสะท้อนปัญหาของตัวเองออกมาให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ ทั้งนี้ กุลธิดาชี้ว่านักเรียนไทยได้สะท้อนปัญหาและสิ่งที่ตัวเองต้องการมาโดยตลอด แต่ปัญหาจะได้รับการแก้ไขมากยิ่งขึ้น หากนักเรียน คุณครู และผู้ปกครอง สื่อสารกันมากขึ้น เพื่อหาวิธีจัดการบริหารสถานการณ์ที่ลงตัวกับทุกฝ่าย เช่นเดียวกันกับผู้ปกครอง ที่ต้องสะท้อนปัญหาและเข้ามามีส่วนร่วมกับกระบวนการเรียนรู้ของลูกหลานมากขึ้นกว่าเดิม

“จุ๊ยดีใจที่ในช่วงโควิด-19 ได้เห็น ได้ยินเสียงของผู้ปกครองที่เริ่มสนใจในสุขภาวะของลูก แล้วบอกว่าอันนี้การบ้านเยอะไป อันนี้ไม่เห็นเป็นสาระเลย โควิด-19 ถ้ามองให้มันเป็นข้อดีอยู่ข้อหนึ่ง มันก็ทำให้กระบวนการที่โรงเรียน มันมาเปิดเผย โปร่งใสมาก ทุกคนเห็น เมื่อทุกคนเห็นก็เริ่มมีกระบวนการที่มีส่วนร่วมมากขึ้น ดังนั้น จุ๊ยก็ยังอยากได้ยินเสียงผู้ปกครอง ต่อเนื่องไปจนถึงหลังโควิด-19 คือลูกเราทำอะไรอยู่ ลูกเรากำลังเรียนรู้เรื่องอะไร กระบวนการเป็นยังไง ไม่ได้หมายถึงต้องไปแทรกแซงทุกอย่างที่ครูทำ แต่พูดมันออกมา แลกเปลี่ยนกับคุณครูว่าแบบไหน มันเป็นอย่างไร มันก็จะค่อย ๆ ทำให้กระบวนการในห้องเรียนมันพัฒนาไปโดยปริยาย” กุลธิดาชี้

ครูจุ๊ย – กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ

ปัญหาระบบการศึกษาควรถูกจัดให้เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งภาครัฐต้องตื่นตัวและจัดทำนโยบายเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ เพราะนักเรียนถือเป็นคนสำคัญที่จะเติบโตขึ้นไปพัฒนาประเทศในอนาคต อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาจะมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด เมื่อสถาบันการศึกษาและสถาบันครอบครัวสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับการกระบวนจัดการศึกษาได้อย่างแท้จริง และมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองเป็นสำคัญ

การจะทำให้คนมีส่วนร่วมมากขึ้นกับการศึกษา เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ พร้อมกับการที่เราจะไปปลดล็อกตัวระบบราชการทั้งหมด ที่มันครอบระบบการศึกษาเอาไว้” กุลธิดากล่าวทิ้งท้าย

ข่าวกีฬา

ลิเวอร์พูลเป่าปาก “คลอปป์” ไม่โดน “เอฟเอ” ลงโทษ เหตุแซะ 3 ทีมดังฟาดเงินได้ตามใจ

ลิเวอร์พูล โล่งอกก่อนลงเตะพรีเมียร์ลีกวันนี้ หลังกุนซือคนเก่งไม่โดนลงโทษ จากข้อหาพาดพิง 3 ทีมดังที่มีเงินให้ใช้ได้ตามใจชอบ

ข่าวกีฬา

วันที่ 22 ตุลาคม 2565 บีบีซี สปอร์ต รายงานว่า สมัครเว็บแทงบอลออนไลน์ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) จะไม่สอบสวน เยอร์เกน คลอปป์ เพิ่มเติม เพื่อเอาผิดกรณีที่ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เปิดบ้านชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการพาดพิงถึง แมนฯ ซิตี้, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่มีเจ้าของสโมสรเป็นมหาเศรษฐีจากตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ คลอปป์ ได้กล่าวประชดประชันทั้ง 3 ทีมว่าสามารถใช้เงินได้ตามใจชอบ โดยไม่มีเพดานควบคุมการใช้จ่าย และไม่ผิดกฎการเงิน แตกต่างจาก ลิเวอร์พูล ที่ต้องบริหารจัดการภายใต้ข้อจำกัด ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสำหรับการแข่งขันในวงการฟุตบอล ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้บริหารระดับสูงของ แมนฯ ซิตี้

อย่างไรก็ตาม เอฟเอ พิจารณาแล้วว่า คลอปป์ จะรอดพ้นจากการโดนลงโทษ เนื่องจากไม่เข้าข่ายความผิดฐานอ้างอิงถึงเชื้อชาติ, ชาติพันธุ์, สัญชาติ หรือวัฒนธรรม โดยมองว่ากุนซือลิเวอร์พูลออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความแตกต่างทางการเงินซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในวงการฟุตบอลเท่านั้น

สำหรับ คลอปป์ มีคิวนำทัพ ลิเวอร์พูล ออกไปเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันนี้ 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยก่อนลงสนาม “หงส์แดง” มี 16 คะแนน รั้งอันดับ 7 ส่วน “เจ้าป่า” อยู่อันดับสุดท้าย มีเพียง 6 แต้ม

แทงบอลสร้างเงินล้าน

แทงบอลสร้างเงินล้าน

แทงบอลสร้างเงินล้าน ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เดิมพัน

ใครๆก็มีสิทธิ์ที่จะสามารถเข้ามาทำการ แทงบอลสร้างเงินล้าน กับเว็บการให้บริการของทางเว็บไซต์เราได้กันทั้งนั้น ซึ่งเว็บไซต์การให้บริการของเราสามารถทำการแทงบอลในรูปแบบออนไลน์ได้อย่างไม่จำกัด และสามารถทำการวางเดิมพันกับทีมกีฬาฟุตบอลออนไลน์ได้หลากหลายประเภทและยังมีการให้บริการสำหรับการแทงบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีให้ท่านนั้นเลือกทีมการแข่งขันฟุตบอลที่หลากหลาย อย่างทั่วโลก และทำเองก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าเว็บ แทงบอลออนไลน์ไม่มีขั้นต่ำ การให้บริการของเรานั้นจะทำให้คุณผิดหวังแต่อย่างใด แต่เป็นเว็บการให้บริการที่จะมาพร้อมความประทับใจและการให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านอย่างดีเยี่ยมแน่นอน ซึ่งทหารท่านนั้นชื่นชอบในเรื่องของการวางเดิมพันกับเกมกีฬาฟุตบอลออนไลน์ ก็สามารถเลือกวางเดิมพันและสร้างผลกำไรกับเว็บไซต์การให้บริการจากทางเว็บไซต์ของเราได้ที่นี่ได้เลย

แทงบอลสร้างเงินล้าน

ส่งต่อวิธีการ แทงบอลสร้างเงินล้าน ให้กับตนเอง

การที่จะ แทงบอลสร้างเงินล้าน ให้กับตนเองได้นั้นสามารถทำได้ง่ายๆไม่ยุ่งยากแต่จะต้องมีการทำความเข้าใจในเรื่องของการศึกษาความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการแทงบอลเพิ่มเติมนั่นก็คือวิธีการในการแทงบอลหรืออีกอย่าง ก็คือ เทคนิคในการใช้เป็นตัวช่วยในการแทงบอลนั่นเอง ซึ่งตัวช่วยต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่จะทำให้คนนั้นได้ทำเงินล้านให้กับตนเองได้อย่างมากมายมากยิ่งขึ้น และใช้เวลาที่รวดเร็วในการทำผลกำไรให้กับตนเอง ซึ่งจะมีเทคนิคและวิธีการ แทงบอล ออนไลน์ อะไรมาแนะนำบ้างนั้นจะพาทุกๆ ท่านไปเรียนรู้พร้อมกันดังนี้ 

แทงบอล ออนไลน์

แทงบอลให้มีลุ้นให้ได้เงินล้านจากการพนันบอลออนไลน์

  1. แทงบอลสร้างเงินล้าน ที่ทำการศึกษาทีมฟุตบอลต่างๆ ว่าในแต่ละทีมนั้นมีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร และมีนักเตะทีมตัวเด่นๆ อยู่ในทีมหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้เราจะต้องทำการศึกษามาเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้ทำการวิเคราะห์ของเดิมพันได้อย่างไร
  2.  เว็บพนันบอล ที่ดีที่สุด ให้ติดตามข่าวสารของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอย่างสม่ำเสมอ และติดตามข่าวของนักเตะตัวเด่นๆ ว่ามีการโยกย้ายไปอยู่ทีมใดบ้าง ซึ่งมีแต่และทีมนั้นทุกๆ ปีอาจจะมีการเปลี่ยนตัวหมุนเวียนปรับเปลี่ยนกันไป ซึ่งในจุดนี้เราจะต้องมีการติดตาม และเพิ่มเติมสิ่งที่สำคัญให้กับตนเองอยู่เรื่อยๆ เพื่อที่จะทำการวางเดิมพัน แทงบอล เครติตฟรี ได้แบบไม่มีความเสี่ยงสูง

 

เศรษฐกิจ

“นิวทรีชั่น เอสซี” ขับเคลื่อนธุรกิจสู่องค์กรคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

“นิวทรีชั่น เอสซี” ขับเคลื่อนธุรกิจสู่องค์กรคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

เศรษฐกิจ

บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจวัตถุเจือปนอาหารและเครื่องปรุงต่างๆ กว่า 41 ปี มุ่งมั่นในการพัฒนาการจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานขององค์กร รวมทั้งตระหนักในความสำคัญของการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และแสดงความรับผิดชอบของภาคธุรกิจ ที่ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประกาศความสำเร็จสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ รับมอบประกาศนีบัตรการรับรองระบบ ISO 14064-1:2018 มาตรฐานสากลด้านการทวนสอบการวัดปริมาณและการรายงานผลการปลดปล่อยและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร จาก บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) ผู้ให้การรับรองระบบมาตรฐานสากลชั้นนำของโลก

คุณประวาลทอง ทองใหญ่ ณ อยุธยา ผู้จัดการฝ่ายรับรองระบบมาตรฐานในอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (ประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา) บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (BVC) มอบผลการรับรองระบบ ISO 14064-1:2018 พร้อมแสดงความยินดี ให้แก่ ดร. พัชร์ เอกปัญญาสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด โดยทางดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล ได้กล่าวว่า NTSC เรามีความยินดีในการเป็นส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อนำพาธรรมชาติที่ดีสู่อนาคตของประเทศ อีกทั้ง NTSC เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจในและมีนโยบายต่อการรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้น การได้รับรางวัลรับรองมาตรฐานในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญในการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบสังคมอย่างจริงใจ

ออกแบบ

“สโตนฮิลล์” บูมธุรกิจกีฬา-ท่องเที่ยว จัด “ลิฟ กอล์ฟ” ประกาศศักดาเอเชีย-ไทย

“สโตนฮิลล์” บูมธุรกิจกีฬา-ท่องเที่ยว จัด “ลิฟ กอล์ฟ” ประกาศศักดาเอเชีย-ไทย

ออกแบบ

“สารัชถ์” ซีอีโอกัลฟ์ รุกธุรกิจสนามกอล์ฟ “สโตนฮิลล์” บนพื้นที่กว่า 950 ไร่ ย่านเชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หวังยกระดับการท่องเที่ยวและกีฬาด้วยมาตรฐานระดับโลก ประเดิมทัวร์นาเมนต์แรก “ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชันแนล ซีรีส์” 7-9 ต.ค.นี้ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 9 พันล้านบาท เป็นการตอกย้ำศักยภาพของไทยในภูมิภาคเอเชีย น่าจับตามองทีเดียวสำหรับศึกกอล์ฟที่กำลังจะจัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกกับรายการใหญ่ที่มีชื่อว่า “ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชันแนล แบงคอก” ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ โดยถือเป็น 1 ใน 8 ทัวร์นาเมนต์ของ “ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชันแนล ซีรีส์” (LIV Golf Invitational Series) ที่จัดการแข่งขันขึ้นเป็นปีแรกตระเวนดวลวงสวิงตามเมืองใหญ่ๆ ของทั้งประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และ ซาอุดิอาระเบีย รวมแล้วมีเงินรางวัลให้ชิงชัยสูงถึง 255 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,180 ล้านบาท) เลยทีเดียว เรียกได้ว่าไม่มีทัวร์กอล์ฟไหนมีเงินสูงขนาดนี้มาก่อน

ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชั่นแนล ซีรีส์ ดำเนินการจัดการแข่งขันโดย ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ส เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งมีวิสัยทัศน์และพันธกิจส่งเสริมการลงทุนอย่างครอบคลุมและยั่งยืนเพื่อพัฒนากีฬากอล์ฟกีฬากอล์ฟทั่วโลก ทำให้ถือกำเนิดทัวร์กอล์ฟอาชีพนี้ขึ้นซึ่งได้รับทุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ พีไอเอฟ (Public Investment Fund) ของประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่ถือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ลิฟ กอล์ฟ อินเวสต์เมนท์ส โดยมี เกร็ก นอร์แมน ตำนานนักกอล์ฟชาวออสเตรเลียเจ้าของฉายา “ฉลามขาว” ดีกรีแชมป์เมเจอร์ ดิ โอเพ่น 2 สมัยปี 1986 กับ 1993 นั่งตำแหน่งซีอีโอ

ธุรกิจ

เซ็นทรัล รีเทล ทุ่มงบด้านเทคโนโลยี กว่า 10,000 ล้านบาท ยกระดับแพลตฟอร์ม Next-Gen Omnichannel

เซ็นทรัล รีเทล ทุ่มงบด้านเทคโนโลยี กว่า 10,000 ล้านบาท ยกระดับแพลตฟอร์ม Next-Gen Omnichannel

ธุรกิจ

นายเดวิด ยามาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายดิจิทัล บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเซ็นทรัล รีเทล ได้ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่การเป็นรีเทลเทคอย่างเต็มรูปแบบ และสร้างแพลตฟอร์มออมนิแชแนลที่ดีที่สุดในประเทศไทย จากการพัฒนาของทีมเซ็นทรัล รีเทล ดิจิทัล พิสูจน์ได้จากจำนวนการเติบโตของตัวเลขผู้ใช้บริการในปีก่อนๆ กว่า 80% และมียอดผู้กลับมาใช้ซ้ำกว่า 60% ส่งผลให้ยอดขายจากแพลตฟอร์มนี้เติบโตเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายทั้งหมด เราจึงยกระดับแพลตฟอร์มนี้สู่ Next-Gen Omnichannel ที่เหนือระดับและสามารถเชื่อมโลกออฟไลน์ ออนไลน์ และ Metaverse เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ครอบคลุมทั้งเครือข่ายเซ็นทรัล รีเทล ในไทย เวียดนาม และอิตาลี

โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Ultra -Personalization ที่นำเสนอสินค้าและบริการเฉพาะบุคคลแบบเรียลไทม์ เช่น ปัจจุบันมีสมาชิกบน Central App กว่า 6 ล้านดาวน์โหลด อีกทั้งยังเป็นการสร้าง Inclusive Growth ให้กับคู่ค้า ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็น ‘Destination’ สำหรับลูกค้า คู่ค้า และทุกๆ คน รวมถึงเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้กลยุทธ์ CRC Retailligence เกิดขึ้นได้จริง ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลที่จะทำให้เซ็นทรัล รีเทล ก้าวสู่การเป็นรีเทลเทค ระดับโลก และเป็นผู้นำด้านออมนิแชแนลหนึ่งเดียวของไทยและระดับสากลอย่างแท้จริง

เทคโนโลยี

เพื่อไทย วอน ปรับกฎเหล็ก 180 วัน แขวะ ใช้ เทคโนโลยี ดีกว่า “วิทยุทรานซิสเตอร์”

เพื่อไทย วอน ปรับกฎเหล็ก 180 วัน แขวะ ใช้ เทคโนโลยี ดีกว่า “วิทยุทรานซิสเตอร์”

เทคโนโลยี

พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐบาล แก้น้ำท่วมเร่งด่วนฉุกเฉินแบบ “ภาวะวิกฤติ” วอน ปรับกฎเหล็ก 180 วัน กกต. เปิดทางภาคท้องถิ่นช่วยประชาชนพ้นภัย แขวะ เอาเทคโนโลยีมาใช้เตือนภัยล่วงหน้าดีกว่ากลับไปใช้วิทยุทรานซิสเตอร์

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศประสบภัยพิบัติน้ำท่วม ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม และความเสียหายต่อบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่ทำกินในหลายพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างรุนแรง และประสบความยากลำบากในการดำรงชีวิต ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ตระหนักถึงวิกฤติปัญหาดังกล่าว พรรคเพื่อไทยจึงออกแถลงการณ์มาเพื่อเรียกร้องทั้งรัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ ใน 2 เรื่อง ดังนี้

1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ถือว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในครั้งนี้ที่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง และต้องถือว่า กรณีนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็นฉุกเฉิน จึงต้องบริหารแบบสถานการณ์พิเศษ มิใช่บริหารแบบสภาพการณ์ปกติทั่วไป จะต้องระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง และทันท่วงที โดยต้องมีมาตรการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า และมาตรการเยียวยาในระยะต่อไปอย่างชัดเจน

2.ขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณากำหนดเงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติ ปรับปรุงระเบียบให้พรรคการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้แทนของปวงชนสามารถเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ แม้จะอยู่ในช่วงระยะของ 180 วัน ก่อนวันครบอายุสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องถือปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นระเบียบว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงก็ตาม เพื่อมิให้ระเบียบ หรือข้อห้ามต่างๆ เป็นอุปสรรคในการจำกัดหรือทำให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนซึ่งกำลังเดือดร้อนอย่างสาหัสอยู่ในขณะนี้

สังคม

“สนามบินสุวรรณภูมิ” เปิดให้จอดรถฟรี 6 วัน ช่วงหยุดยาว 12-17 ต.ค. 65

“สนามบินสุวรรณภูมิ” เปิดให้จอดรถฟรี 6 วัน ช่วงหยุดยาว 12-17 ต.ค. 65

สังคม

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ จอดรถฟรี 6 วัน ช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 12–17 ตุลาคม 2565 บริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน C

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ทำการยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถที่ลานจอดรถระยะยาว (Long Term Parking) โซน C ซึ่งสามารถจอดรถได้จำนวน 718 คัน ในช่วงวันหยุดยาว วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 13 ตุลาคม 2565 และวันหยุดราชการกรณีพิเศษ วันที่ 14 ตุลาคม 2565

ซึ่งผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ สามารถนำรถยนต์เข้ามาจอดฟรี ระหว่างวันที่ 12–17 ตุลาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพุธที่ 12 ตุลาคม 2565 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2565 รวมทั้งสิ้น 6 วัน

ทั้งนี้ ทสภ. ได้จัดรถ Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ-ส่งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ระหว่างลานจอดรถระยะยาวโซน C และอาคารผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยรถ Shuttle Bus สาย A จะเริ่มวิ่งจากศูนย์การขนส่งสาธารณะ (Public Transportation Center) ไปยังลานจอดรถระยะยาวโซน C และแวะจอดรับ–ส่งตามจุดต่างๆ ก่อนจะไปจอดที่อาคารผู้โดยสารตรงชั้น 1 ประตู 3 และประตู 8 จากนั้นจะวนไปที่ลานจอดรถระยะยาวโซน A และกลับเข้าสู่ศูนย์การขนส่งสาธารณะ

ทสภ. ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินระหว่างประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง และเที่ยวบินภายในประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หากผู้โดยสารต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9511 ตลอด 24 ชั่วโมง.